เนื่องจากตัวผมเองเป็นคนที่ ( จำเป็น ) ต้องฝึกสมาธิ เพื่อให้จิตใจสงบ เพื่อทำให้คลื่นสมอง ( กลับมา ) สู่ระดับปรกติ ไม่วุ่นวายมากกว่าคนธรรมดาทั่ว ๆ ไป แต่ฝึกมาหลายปี ถึงแม้จะฝึกได้ไม่มาก แต่คิดว่ามีความต่อเนื่องในระดับนึง จนคิดว่ามันน่าจะพัฒนาไปได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน หรือในขณะที่เรานั่งสมาธิ ( อานาปานสติ ) บางครั้งเรารู้สึก ( หรือเป็นแค่ความคิด ) ว่ามันเหมือนมีอะไรขวางสมอง หรือขวางกั้นการเข้าถึงระดับจิตอยู่ แรก ๆ ก็คิดว่าเป็นเพียงความคิด หรือ นาม ให้เราได้รู้สึกแล้วปล่อยวางมันไป ผ่านไปหลาย ๆ ปี กลับยังมีความรู้สึกเหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง
สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสอ่านหนังสือวิธีการฝึกสมาธิเล่มหนึ่ง ได้กล่าวไว้ในส่วนหนึ่งว่า หากคนที่ได้รับยากล่อมประสาท ( ยาคลายกังวล ) ยาพวกนี้จะสกัดกั้นการฝึกสมาธิของเราได้ ( คิดเอาเองว่า การฝึกสมาธิ สมองคงต้องหลั่งสารบางอย่างออกมา แต่ในเมื่อมียาควบคุมไว้อยู่ การหลั่งสารบางอย่างอาจจะเป็นไปไม่ได้ ) นี่หรือเปล่าที่เป็นสาเหตุที่ทำให้การฝึกสมาธิของเราไม่มีความก้าวหน้าใด ๆ ในหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา
แต่ก็คง เป็นเช่นนั้นเอง ในเมื่อมันมีเหตุ มันจึงมีผลเป็นเช่นนี้ ความต้องการในการพัฒนาการฝึกสมาธิ เพื่อพัฒนาจิตใจ และสมองของเราคงมาได้เพียงระดับนี้ แต่ก็จะฝึกต่อไป ได้แค่ไหนแค่นั้น คงเป็นไปตามบุญ ตามกรรม ที่ได้ก่อไว้........
สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสอ่านหนังสือวิธีการฝึกสมาธิเล่มหนึ่ง ได้กล่าวไว้ในส่วนหนึ่งว่า หากคนที่ได้รับยากล่อมประสาท ( ยาคลายกังวล ) ยาพวกนี้จะสกัดกั้นการฝึกสมาธิของเราได้ ( คิดเอาเองว่า การฝึกสมาธิ สมองคงต้องหลั่งสารบางอย่างออกมา แต่ในเมื่อมียาควบคุมไว้อยู่ การหลั่งสารบางอย่างอาจจะเป็นไปไม่ได้ ) นี่หรือเปล่าที่เป็นสาเหตุที่ทำให้การฝึกสมาธิของเราไม่มีความก้าวหน้าใด ๆ ในหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา
แต่ก็คง เป็นเช่นนั้นเอง ในเมื่อมันมีเหตุ มันจึงมีผลเป็นเช่นนี้ ความต้องการในการพัฒนาการฝึกสมาธิ เพื่อพัฒนาจิตใจ และสมองของเราคงมาได้เพียงระดับนี้ แต่ก็จะฝึกต่อไป ได้แค่ไหนแค่นั้น คงเป็นไปตามบุญ ตามกรรม ที่ได้ก่อไว้........
No comments:
Post a Comment